ประวัติและความเป็นมา
4P เป็นทฤษฎีการผลิตในปี 1960
ในประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อมกับทฤษฎีส่วนประสมทางการตลาดที่เสนอและเกิดขึ้น ในปี
1953 นีลเลือกตั้ง (เลือกตั้งนีล) ประกาศเกียรติคุณคำว่า
"ส่วนประสมการตลาด" (ส่วนประสมการตลาด) ระยะในการพูดการสถาปนาของเขาของสมาคมการตลาดอเมริกัน,
ความหมายของมันเป็นความต้องการของตลาดที่มีขอบเขตมากหรือน้อย
ในเรื่องที่เรียกว่า "ตัวแปรการตลาด" ส่งผลกระทบต่อหรือ
"องค์ประกอบการตลาด" เพื่อหาปฏิกิริยาตลาด บริษัท
ต้องการที่จะรวมกันที่มีประสิทธิภาพขององค์ประกอบเหล่านี้เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและเพิ่มผลกำไร
มีจริงหลายสิบขององค์ประกอบส่วนประสมทางการตลาด
(เลือกตั้งส่วนประสมทางการตลาดที่นำเสนอไปแล้วรวม 12 องค์ประกอบ), เจอโรมแมคคาร์ (แมคคาร์) ในปี 1960 ในหัวข้อ
"การตลาดขั้นพื้นฐาน" ของ (การตลาดขั้นพื้นฐาน) หนังสือเหล่านี้
สรุปองค์ประกอบโดยทั่วไปเป็น4 ประเภท1. ผลิตภัณฑ์ (Product) 2. ราคา (Price) 3. ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place) 4. การส่งเสริมการขาย (Promotion) หรือที่เรียกว่า 4Ps ในปี 1967 ฟิลิปKotlerเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดของเขา "การบริหารจัดการการตลาด: การวิเคราะห์การวางแผนและควบคุม"
ฉบับพิมพ์ครั้งแรกได้รับการยืนยันต่อไปด้วยหลักของการตลาดวิธีการผสม 4Ps
ความหมาย
มูลค่า ของสินค้าและบริการ ที่ลูกค้า จ่ายเพื่อรับ สิทธิ์ ในการครอบครอง องค์ประกอบ
ตลาดจึงมีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้ทำการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ อาจเป็นทั้งระบบ Barter System หรือใช้เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ซึ่งมีระบบในการซื้อขายแลกเปลี่ยน
องค์ประกอบ
ต้นทุน, กำไร, ความต้องการของตลาด, คู่แข่ง, คุณค่าที่รับรู้ในสายตาผู้บริโภค
ปัจจัยและการประยุกต์ใช้
ราคาเป็นส่วนหนึ่งของ Marketing Mix หรือ ที่เรารู้จักกันดี คือ 4P ซึ่งราคาจะเป็นตัวที่ก่อให้เกิดรายได้ ส่วนตัวมีผลต่อต้นทุนทั้งนั้น การตั้งราคาจึงมีความสำคัญที่จะทำให้ธุกิจประสบความสำเร็จ ดังนั้นในการจะตั้งราคาของสินค้าและบริการจึงควรที่จะคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ การวัดว่าการตั้งราคาว่าประสบผลสำเร็จหรือไม่ สามารถดูได้จากตัวชี้วัดของราคา ดังนี้ คือยอดขายเป็นไปตามเป็าหมายที่กิจการได้ตั้งไว้ รวมทั้งผลกำไรนั้นเป็นไปตามเกรณ์ที่กำหนด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น